แบรนด์เนมมือสอง คำตอบของนักช้อปที่ใส่ใจโลก

หากใครเคยมีโอกาสไปช็อปปิ้งที่ประเทศญี่ปุ่น เชื่อว่าหลายๆ คนคงจะเห็นว่าที่นั่นเขาขายแบรนด์เนมมือสองกันเป็นเรื่องปกติ Komehyo, Roko Shira และ Brandfirst เหล่านี้คือร้านขายผลิตภัณฑ์แบรนด์เนมทั้งมือหนึ่งและมือสองชื่อดังที่รับประกันทั้งในเรื่องคุณภาพและ ‘ความแท้’ ของสินค้าแบรนด์เนมมือสอง อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าของร้านปลอดกังวลว่าสินค้ามือสองในร้านเป็นของแท้แน่นอน 100 เปอร์เซ็นต์ เมื่อการซื้อแบรนด์เนมมือสองกลายเป็นเรื่องง่าย ไม่แปลกเลยที่หนุ่มสาวชาวญี่ปุ่นที่แม้ว่าจะไม่ได้ทุนหนา ทว่ามีใจรักแบรนด์เนมจะพากันตบเท้าเข้ามาจับจ่ายแบรนด์เนมมือสองในร้านเหล่านี้จนกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว

การซื้อขายแบรนด์เนมมือสองกลายเป็นปรากฏการณ์ที่พบเห็นได้ทั่วไป ในฐานะช่องทางหนึ่งที่ผู้คนจะสามารถครอบครองสินค้าแบรนด์เนมได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม ในช่วงหลังๆ มานี้ ประเด็นแบรนด์เนมมือสองได้ค่อยๆ เปลี่ยนจากเรื่องของการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ราคาแพงในราคาที่ถูกลง ไปสู่ประเด็นที่ใหญ่โตขึ้นอย่าง การใส่ใจดูแลโลก ภายใต้การเปลี่ยนพฤติกรรมการช้อปที่หันมาอุดหนุนแบรนด์เนมมือสอง แทนที่จะซื้อแต่สินค้าออกใหม่อยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้การเข้ามาสู่ตลาดนี้ของกลุ่มลูกค้า Gen-Z ที่มีแนวโน้มว่าจะขยายตัวมากขึ้นเรื่อยๆ 

Gen Z กับความนิยมที่เพิ่มขึ้นของแบรนด์เนมมือสอง

อย่างที่รู้กันดีว่า หนึ่งในคุณลักษณะที่ชัดเจนของ Gen-Z คือ หากเขาคิดจะซื้ออะไร เขาจะไม่พิจารณาแค่เฉพาะคุณภาพของสินค้าเพียงอย่างเดียว แต่จะครอบคลุมไปถึงประเด็นอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น จุดยืนทางการเมืองของแบรนด์ ความโปร่งใสของแบรนด์ และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

คุณลักษณะเช่นนี้ยิ่งจะเห็นได้อย่างชัดเจนในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ผ่านเหตุการณ์สำคัญอย่าง #BlackLivesMatter ในสหรัฐอเมริกา จนประเด็นการเหยียดสีผิวและเชื้อชาติได้กลับมาเป็นที่ถกเถียงอย่างเผ็ดร้อนในพื้นที่สาธารณะอีกครั้ง #BlackLivesMatter ได้กลายเป็นแรงกดดันที่ส่งไปถึงแบรนด์ต่างๆ ทั่วโลกให้ต้องออกมาเปิดหน้าแสดงจุดยืนต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติอย่างเต็มที่ นั่นเพราะหากพวกเขาเลือกที่จะนิ่งเงียบ ก็เป็นไปได้ว่ากลุ่มลูกค้า Gen-Z จำนวนมากที่สนับสนุน #BlackLivesMatter จะเลิกสนับสนุนแบรนด์ไปโดยทันที เห็นได้ว่า แบรนด์ชื่อดังอย่าง Balenciaga หรือ Nike ต่างก็พากันออกมาต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติอย่างตรงไปตรงมา

หรือประเด็นอย่างภาวะโลก และโรคระบาดโควิด-19 เองก็เป็นอีกสองประเด็นสำคัญที่สะท้อนให้เห็นคุณลักษณะของกลุ่มลูกค้า Gen-Z ได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะในเรื่องที่มนุษย์สร้างบาดแผลให้กับโลก ธรรมชาติ และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ การตระหนักถึงประเด็นต่างๆ นี้ได้ส่งผลให้ Gen-Z ระมัดระวังพฤติกรรมของตัวเองในหลายๆ มิติด้วยกัน โดยที่หากเป็นเรื่องของการช้อปปิ้ง พวกเขาก็ดูจะมีท่าทีต่อต้านค่านิยมการช้อปไม่ยั้งในยุคก่อน และหันมาให้ความสำคัญกับการพิจารณาความจำเป็นของสินค้าเป็นชิ้นๆ รวมไปถึงการเห็นคุณค่าของสินค้ามือสอง

น่าสนใจว่า ในระหว่างการระบาดโควิด-19 ตลาดสินค้าแบรนด์เนมมือสองกลับไม่ได้หดเล็กลงแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม เพราะผลสำรวจจากเว็บไซต์ consultancy.uk แสดงให้เห็นว่า ตลาดสินค้าแบรนด์เนมมือสองในปี 2021 กลับเติบโตขึ้นถึง 12 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปี 2018 โดยเหตุผลที่คนหันมาซื้อแบรนด์เนมมือสองกันมากขึ้นก็มีตั้งแต่พฤติกรรมการช้อปปิ้งที่เปลี่ยนไป ราคาของสินค้าแบรนด์เนมที่จับต้องได้ ไปจนถึงความไว้ใจที่เพิ่มมากขึ้นต่อร้านขายแบรนด์เนมมือสองทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ไม่ว่าจะในเรื่องของคุณภาพสินค้า และการรับประกันความแท้ของแบรนด์เนมมือสอง

The RealReal, Tradesy และ Rebag เหล่านี้คือตัวอย่างของร้านค้าและแพลตฟอร์มออนไลน์สำหรับซื้อขายสินค้าแบรนด์เนมมือสองซึ่งได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในช่วงการระบาดของโควิด-19 โดยที่จุดเด่นของเว็บไซต์เหล่านี้ นอกจากจะมีสินค้าแบรนด์เนมให้เลือกช้อปได้มากมายหลากหลายแบรนด์แล้ว พวกเขายังรับประกัน

ว่าสินค้าที่ซื้อไปจะเป็นของแท้แน่นอน 100 เปอร์เซ็นต์อีกด้วย

ถึงตรงนี้เราเลยอยากจะแนะนำเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ สำหรับใครที่อยากจะซื้อสินค้าแบรนด์เนมมือสองดูบ้าง

[Conscious Tips by ili U] 

เช็กความปลอม ก่อนซื้อแบรนด์เนมมือสอง 

1. เลือกร้านที่มีผู้เชี่ยวชาญ

เคล็ดลับแรกที่ช่วยให้คุณรู้สึกอุ่นใจในการซื้อแบรนด์เนมมือสองคือ เลือกซื้อจากร้านที่จะมีผู้เชี่ยวชาญแบรนด์เนมตรวจสอบสินค้าให้ เพราะเมื่อขึ้นชื่อว่าแบรนด์เนมแล้ว แน่นอนว่าย่อมจะมีสินค้าเลียนแบบมากมายเป็นธรรมดา แถมของปลอมยุคนี้ยังเก็บรายละเอียดได้แนบเนียนและใกล้เคียงของจริงมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะได้แบรนด์เนมปลอม การให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบสินค้าให้แต่เนิ่นๆ จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด

2. เช็กสภาพของให้ดีก่อนซื้อ

แน่นอนว่าก่อนจะตัดสินใจซื้อสินค้ามือสองใดๆ การได้เห็นของจริงย่อมจะดีที่สุด เพราะคุณจะสามารถพิจารณาคุณภาพของสินค้าชิ้นนั้นๆ ได้อย่างตรงๆ ดูว่ามีรอยขีดข่วน หรือมีอะไรขาดหายไปหรือเปล่า แต่หากคุณไม่มีโอกาสได้เห็นของจริง ก็ควรจะขอรูปถ่ายของสินค้าแบรนด์เนมชิ้นนั้นๆ ให้มากที่สุด อย่าไปคิดเกรงใจ เพราะคงไม่มีใครอยากเสียเงินเป็นหมื่นๆ เพื่อแลกมากับผลิตภัณฑ์ที่มีตำหนิเกินกว่าจะรับได้หรอก จริงไหม?

3. เช็ก Serial Number ในการ์ดกับ Tag กระเป๋าว่าเป็นหมายเลขเดียวกัน

หากเป็นกระเป๋าแบรนด์เนม โดยเฉพาะแบรนด์ดังๆ อย่าง Chanel จะมาพร้อมกับการ์ดที่ระบุ Serial Number ไว้ โดยที่หมายเลขเหล่านี้จะไปปรากฏอยู่ภายในกระเป๋าด้วย ก่อนหน้าที่คุณคิดจะซื้อกระเป๋าใบไหน เช็กให้ชัดเจนว่าหมายของของ Serial Number ในการ์ดกับหมายเลขใน Tag กระเป๋าตรงกัน