Eat —— จากผู้ใช้จริง

รีวิวสินค้าป้ายเหลือง ที่ทั้งถูกและดีต่อโลก!

มุมโปรดในซูเปอร์มาร์เก็ต มินิมาร์ท หรือตลาดของคุณคือมุมไหน? สำหรับเราแล้วคำตอบเดียวในใจก็คือมุมสินค้าป้ายเหลือง!!

เมื่อก่อนเราไม่ค่อยได้สนใจอาหารป้ายเหลืองสักเท่าไหร่ เพราะถูกปลูกฝังมาว่าสินค้านี้เป็นอาหารที่ใกล้บูด เป็นของโละ คุณภาพคงไม่ดีแล้ว ก็เลยไม่กล้าซื้อมากินแบบจริงๆ จังๆ แต่พอมาใช้ชีวิตเป็นมนุษย์กรุงเทพที่ต้องซื้ออาหารนอกบ้านมากินเองเป็นประจำทุกวัน พบว่าอาหารป้ายเหลืองก็ไม่แย่ เพราะยังไงเราก็กินหมดในวันนั้นแน่ๆ ที่สำคัญคือประหยัดเงินแล้วยังช่วยลด Food Waste ได้ด้วย!!

ในทุกๆ ปีหลายซูเปอร์มาเก็ตในไทยนั้นต้องทิ้งอาหารที่ยังกินได้มากกว่า 160 ตันหรือประมาณ 380,000 มื้ออาหาร เพราะพวกเขาขายอาหารเหล่านั้นไม่ทัน แม้จะติดป้ายเหลืองไปแล้ว ซึ่งสุดท้ายอาหารเหล่านั้นจึงต้องถูกทิ้งไปตามนโยบายของห้างร้าน แต่ถ้าเราร่วมด้วยช่วยกันซื้ออาหารป้ายเหลืองจนหมด นอกจากจะเซฟเงินในกระเป๋ายังเซฟโลกจากขยะได้ด้วยนั่นเอง

วิธีช้อปสินค้าป้ายเหลือง 101

มาทำความรู้จักกับสินค้าป้ายเหลืองกันก่อนดีกว่า หากให้นิยามกันง่ายๆ สินค้าป้ายเหลืองคือสินค้าลดราคา ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นของใกล้หมดอายุ ของเคลียร์สต๊อก หรือสินค้าที่มีตำหนิจากการวางขาย ส่วนใหญ่สินค้าป้ายเหลืองจะถูกวางขายแยกออกมาจากสินค้าราคาปกติ มักจะอยู่ริมสุดของตู้ที่คนไม่ค่อยสังเกต แต่นักล่าป้ายเหลืองอย่างเรานั้นไม่พลาดมองเห็นได้อย่างแน่นอน

อีกสิ่งหนึ่งที่ควรรู้ของป้ายเหลืองคือการสังเกตตัวเลขบนป้าย นอกจากราคาที่เขาจะบอกว่าลดจากเท่าไหร่มาเป็นเท่าไหร่แล้ว สิ่งที่ควรสังเกตคือวันที่ หลายคนอาจจะคิดว่าวันที่บนป้ายเหลืองคือวันหมดอายุ แต่ความจริงแล้วไม่ใช่ จริงๆ แล้วมันคือวันที่อัพเดตเพื่อใช้บอกว่าป้ายราคานี้เปลี่ยนล่าสุดเมื่อไหร่ การดูวันหมดอายุจริงๆ ยังต้องดูบนฝา บนขวด หรือบนฉลากอยู่นะ

พอจะรู้จักอาหารป้ายเหลืองคร่าวๆ กันแล้ว มาดูกันว่าอาหารป้ายเหลืองที่เราหาเจอมีอะไรบ้าง ถูกลดราคาเพราะอะไร แล้วคุณภาพยังดี ยังกินได้อยู่จริงๆ ไหม

กับข้าวป้ายเหลือง 

นึกถึงป้ายเหลือง สินค้าแรกๆ ที่ทุกคนนึกถึงก็คงจะหนีไม่พ้นกับข้าวป้ายเหลืองหรือพวกอาหารที่ปรุงใหม่วันต่อวัน ซึ่งซูเปอร์มาร์เก็ตเขาจะนำกับข้าวที่ยังขายไม่หมดมาลดกันทุกๆ เย็น แต่ละซูเปอร์ฯ ก็จะเริ่มลดในช่วงเวลาที่ต่างกันไป อย่างในช่วงโควิด-19 ซูเปอร์มาร์เก็ตแถวบ้านเราจะเริ่มลดราคากันตั้งแต่ 18.00 น. จนถึงเวลาห้างปิด

แน่นอนว่ากับข้าวป้ายเหลืองนั้นคุ้มค่าสุดๆ เพราะถูกนำมาลดราคาขายถึง 30-75 % สำหรับเราแล้วมันคือช่วงเวลาทองที่จะได้ทดลองกินอาหารเมนูใหม่ๆ ที่ถ้าวางขายในเวลาปกติเราคงต้องตัดใจ เช่น เมนูซูชิ สเต็กปลาแซลม่อน หรืออาหารเกาหลีสุดพรีเมียม แต่เรื่องความสดใหม่นั้นก็ลดลงไปตามราคาและเวลาที่วางขาย และควรจะมั่นใจว่าเราสามารถกินจนหมดได้ในวันนี้หรือยืดเวลาได้มากสุดก็คือเช้าวันถัดไป 

นมป้ายเหลือง 

นมรวมถึงผลิตภัณฑ์จากนมวัวทั้งหลายเป็นอีกหนึ่งสินค้าที่มักจะติดป้ายเหลืองเป็นประจำเพราะเป็นอาหารที่หมดอายุเร็ว ส่วนใหญ่ผลิตภัณฑ์จากนมนั้นมักจะนำมาลดราคาก่อนวันหมดอายุประมาณ 2-3 วัน แต่บอกตรงๆ ว่าเรานั้นไม่ค่อยได้ซื้อนมป้ายเหลืองสักเท่าไหร่เพราะมักจะกินไม่ทัน รู้ตัวอีกทีก็เลยวันหมดอายุมาไกล 

ฉะนั้นถ้าจะซื้อนมหรือผลิตภัณฑ์จากนมต้องคำนวณให้ดีว่าเราสามารถกินได้ทันจริงๆ แต่ใช่ว่านมเลยวันหมดอายุแล้วจะกินไม่ได้เลยนะ ถ้าเรารีบนมนั้นไปแช่เย็นไว้ที่อุณหภูมิ 2 องศาก็จะช่วยยืดอายุของนมไปได้อีกหลายวัน แต่ก่อนจะนำมากินก็ต้องสังเกตว่านมบูดหรือไม่ ด้วยการนำมาอุ่นแล้วดูว่านมไม่ได้จับตัวเป็นก้อน หรือรินใส่ถ้วยลงไปแล้วไม่เกิดฟอง และลองชิมดูว่าไม่มีรสบูดหรือเปรี้ยว

ผักป้ายเหลือง

กระทั่งผักก็มีวันหมดอายุได้ถ้าถูกนำมาขายในซูเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งผักส่วนใหญ่นั้นจะถูกแปะป้ายเหลืองหลังจากที่เลยวัน Sell By หรือวันที่ควรขาย ที่หลายคนมักจะเข้าใจผิดสับสนกับวันหมดอายุทั้งที่วันที่ควรขายนั้นไม่เกี่ยวกับคุณภาพสินค้าขนาดนั้น แต่เป็นวันที่ถูกกำหนดมาเพื่อให้ผักบนเช้ลฟ์นั้นดูใหม่สดเสมอ นอกจากนี้พวกผักที่เริ่มช้ำเริ่มเหี่ยวก็จะถูกนำมาแปะป้ายเหลืองด้วย 

แน่นอนว่าอาหารพวกนี้ยังกินได้ จะกินสดๆ หรือนำไปปรุงอาหารก็ทำได้สบายๆ แต่ถ้าใครซื้อมาแล้วอยากเก็บไว้หลายๆ วันก็ควรจะเก็บแช่เย็นเอาไว้ เด็ดส่วนที่เหี่ยวเฉาหรือมีร่องรอยว่าจะเน่าเสียออกไปให้หมดก่อน แล้วห่อด้วยกระดาษทิชชู่หรือกระดาษหนังสือพิมพ์แผ่นใหญ่โดยที่ยังไม่ต้องล้างผัก แล้วใส่ผักในถุงซิปล็อกแยกชนิดของผัก ซึ่งกระดาษจะช่วยเก็บความชื้นไม่ให้ระเหยออกและช่วยห่อหุ้มไม่ให้ผักสัมผัสกับความเย็นมากเกินไป ทำให้ผักไม่ช้ำได้ด้วย

ขนมปังป้ายเหลือง

แม้จะกินไม่ค่อยทันแต่ขนมปังก็เป็นอีกหนึ่งวัตถุดิบที่ถ้าเราเห็นแปะป้ายเหลืองก็จะอดใจไม่ซื้อมาไม่ได้ ขนมปังนั้นจะมีทั้งแบบที่ต้องทำทุกวันซึ่งถูกแปะป้ายเหลืองกันทันทีในเช้าวันต่อมา และขนมปังปอนด์ที่จะเริ่มแปะป้ายเหลืองประมาณ 1-2 วันหลังวันผลิตที่อยู่บนฉลาก 

ถึงจะเลยวันหมดอายุไปแล้วขนมปังก็ยังสามารถอยู่ต่อได้อีกถึง 2 สัปดาห์ หากเรานำไปแช่ช่องแข็งไว้ซึ่งข้อดีของการแช่แข็งขนมปังนอกจะทำให้เก็บได้นาน ยังเป็นการเก็บความชื้นเอาไว้ ทำให้เวลาอุ่นอีกครั้งขนมปังจึงจะมีความนุ่มๆ นิ่มๆ สำหรับคนที่ชอบขนมปังกรอบนอกนุ่มในอาจจะต้องนำไปอบหรือปิ้งอีกครั้ง

เครื่องปรุงป้ายเหลือง

ไอเท็มป้ายเหลืองที่นานๆ จะมี แต่ถ้าเจอแต่ละทีเราจะพลาดไม่ได้ เพราะเมื่อเครื่องปรุงได้แปะป้ายเหลืองทีไรจะลดกระหน่ำกว่า 50-70% ซึ่งสินค้าประเภทนี้จะถูกติดป้ายเหลืองเมื่อใกล้วันควรบริโภคก่อน (BBE) ประมาณ 1 เดือน 

วันควรบริโภคก่อนนั้นไม่ใช่วันหมดอายุ แต่คือวันที่แนะนำไม่ว่าถ้าเรากินช่วงนั้นจะได้คุณภาพเต็มๆ แบบที่ผู้ผลิตตั้งใจ ถ้าเลยไปหน่อยก็ยังกินได้ไม่มีปัญหาในเชิงความปลอดภัยเพียงแค่รสชาติ คุณภาพและคุณค่าทางอาหารจะลดลงเท่านั้น เราจึงมักซื้อเครื่องปรุงป้ายเหลืองแบบไม่ค่อยกังวลว่าจะกินไม่ทัน 

นอกจากจะต้องดูเรื่องวันหมดอายุแล้ว เครื่องปรุงรวมถึงอาหารแห้งชนิดอื่นๆ เราต้องให้ความสำคัญกับบรรจุภัณฑ์เป็นพิเศษเพราะอาหารอาหารแห้งมักถูกปิดผนึกแบบสุญญากาศ เพื่อป้องกันการปนเปื้อนจากเชื้อแบคทีเรีย จึงต้องสังเกตให้ดีว่าถุงไม่ขาด กระป๋องไม่บุบหรือเป็นรูแบบที่อากาศสามารถเข้าได้

และสุดท้ายสิ่งสำคัญที่สุดในการซื้ออาหารป้ายเหลืองทุกชนิดคือการวางแผนให้ดีว่าอาหารที่เราซื้อมานั้นสามารถกินหมดได้จริงๆ ไม่ใช่ซื้อเพียงเพราะเห็นราคาเซลล์ เพราะแทนที่จะได้ประหยัดเงินได้ลดขยะ อาจจะกลายเป็นว่าเราสร้างขยะเพิ่มขึ้นจากการกินปกติได้นะ 

Content Designer

#เกิดจังหวัดตาก #ไปเรียนที่เชียงใหม่ #กำลังเป็นนักเขียนอยู่ในเมืองกรุง

Graphic Designer

#กราฟิกดีไซเนอร์ #เป็นเด็กหญิงMoodyGirl #แต่ถ้าได้กินของอร่อยฟังเพลงเพราะนอนเต็มอิ่มจะจิตใจแจ่มใสและหัวใจพองโต

Read More:

Eat จากผู้ใช้จริง

ผักไม่สวยก็มีที่ยืนในจานได้!

ภารกิจช่วยชีวิตเหล่าผักหน้าเบี้ยวให้กลับมามีที่ยืนอีกครั้ง

Eat มนุษยสัมพันธ์

มนุษย์สัมพันธ์ 01 : คุยกับ 3 คนไกลบ้าน เปิดกล่องเสบียงอาหารจากครอบครัว

ชวนคนไกลบ้านทั้งหลายมาเปิดเสบียง โชว์กล่องอาหาร พร้อมเล่าเรื่องราวความเป็นห่วงเป็นใยของแต่ละครอบครัวให้เราฟัง

Eat มนุษยสัมพันธ์

ถ้ารักกันจริง แค่เรื่องซื้อผักเราก็ต้องแคร์

คุยกับ 'Happy Grocers' ร้านผักเดลิเวอรี่ที่อยากเห็น คนปลูกและคนกินได้แฮปปี้กับโลกใบนี้ไปด้วยกัน