Play —— สาระสำคัญ

เปิดโลกของเล่น ที่ข้ามเส้นมา ‘บูชา’ ได้!

ในช่วงเวลาที่บ้านเมืองพึ่งพาผู้นำไม่ได้ หัวร้อนจนลุกเป็นไฟ หลายคนเลยขอหันมาพึ่งพิงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทางใจหน่อยแล้วกัน ออกตัวก่อนว่าเราไม่ใช่สายตั้งหิ้งบูชาแบบจริงจัง แค่อยากมีสิ่งให้มองแล้วสงบจิตสงบใจช่วงนี้ได้บ้างเท่านั้นเอง เลยขอพาไปเปิดโลกที่เข้ามาแทรกช่องว่างระหว่างความเชื่อและความชอบส่วนตัว ด้วย ‘อาร์ตทอยสายมู’

อาร์ตทอย (Art Toy) ที่เราจะพาไปรู้จักอาจดูเหมือนของเล่นของสะสมที่อยู่ในรูปทรงจริงจังอย่าง เทพเจ้า รูปเคารพ ที่นำมาตัดทอนเป็นศิลปะสมัยใหม่ แต่ด้วยเส้นแบ่งที่เห็นชัดของศิลปะและความเชื่อในบ้านเรา การมีอยู่ร่วมกันของทั้งคู่จึงยังเป็นสิ่งที่ถกเถียงกันตลอดมา

ลองมาเปิดโลก (และเปิดใจ) กับของเล่นในมุมใหม่ ผ่านมุมมองความคิดของศิลปินว่าความหมายที่เขากับเราให้กับผลงานชิ้นนั้นเหมือนกันไหม รวมถึงเส้นแบ่งระหว่างศิลปะและความเชื่อที่ว่านั้นมีอยู่จริงหรือเปล่า มา! เปิดพื้นที่ให้พูดคุยได้แบบอิสระเลย

ของ (เล่น) ศักดิ์สิทธิ์?

สำหรับคนที่ไม่คุ้นเคยกับคำว่า ‘อาร์ตทอย’ มาก่อน ขอเกริ่นให้เข้าใจง่ายๆ อีกครั้ง อาร์ตทอย คืองานศิลปะที่ผลิตโดยศิลปิน อยู่ในรูปแบบของเล่น ของสะสม โดยผลิตในจำนวนจำกัดมีตัวเลขกำกับชิ้นงาน อาจเริ่มต้นผลิตตั้งแต่ 1-5 ตัว จนไปถึง 1,000 ตัว (หรือมากกว่านั้น) บางชิ้นเลยกลายเป็นของหายาก ราคาสูง มูลค่าแต่ละตัวจะเพิ่มขึ้นตามชื่อเสียงศิลปินและความนิยมของนักสะสม เลยทำให้ต่างจากของเล่นทั่วไปที่เน้นผลิตเยอะๆ ตามความต้องการของตลาด 

เพราะอาร์ตทอยเป็นงานศิลปะที่ไม่มีเนื้อหามารองรับ ศิลปินมีอิสระที่จะสร้างสรรค์ปั้นขึ้นรูปอะไรก็ได้ ศิลปินหลายคนจึงเลือกที่จะเล่าผ่านมุมของความเชื่อที่ถูกปรับเปลี่ยนให้เข้าคอนเซปต์ของตัวเองอย่างร่วมสมัย ซึ่งเราอาจเคยเห็นได้บ่อยๆ กับการนำ ‘พระพิฆเนศ’ มาตีความใหม่ หรือนำท่าทางของรูปเคารพมาปรับให้เข้ากับคาแรกเตอร์อื่นๆ ตามแนวคิดของศิลปิน จนมีทั้งลูกค้าที่ซื้อมาบูชา ซื้อมาฮีลใจ ซื้อมาสะสม จนอาจสับสนว่า สิ่งนี้ศักดิ์สิทธิ์จริงไหม แล้วจะซื้อมาบูชาได้จริงไหมนะ?

ถึงแม้ตลาดของอาร์ตทอยสายมูได้ในบ้านเรายังไม่กว้างมาก แต่ก็เริ่มเห็นว่าพื้นที่กว้างของความเชื่อ ศาสนา หรือพิธีกรรมต่างๆ ที่ถูกหยิบจับมาในใส่ในงานศิลปะประเภทของเล่น และมีลูกค้าที่ชื่นชอบและพื้นที่ที่ให้การยอมรับอยู่เหมือนกัน มาดูกันว่าศิลปินที่ทำเขาคิดมันขึ้นมาอย่างไร  โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน (แต่ถ้าชอบชิ้นไหนก็กดสั่งได้!)

พระพิฆเนศและแมวกวักบนก้อนเมฆ
จาก WK.studio

เซรามิกขนาดกำลังดีถูกปั้นเป็นรูปพระพิฆเนศและแมวกวักที่ดีไซน์คาแรกเตอร์ออกมาได้สุดมินิมอล โดย WK.studio ศิลปินคู่ที่มีแพชชั่นอันแรงกล้าในงานปั้น ด้วยความที่ทั้งคู่มองเห็นอาร์ตทอยเป็นความสวยงามและเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมและความเชื่อที่หลากหลายจึงถ่ายทอดออกมาเป็นงานที่มีกลิ่นอายของเทวรูปหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์จนคนเข้าใจว่ากำลังเปิดสำนักอยู่แน่ๆ

ผลงานของทั้งคู่จะถูกปล่อยออกมาตามคอลเลกชั่นที่ออกแบบไว้ เช่น คอลเลกชั่นพระพิฆเนศปางนั่งและยืนบนปุยเมฆ พร้อมหนูทอง หรือแมวกวักพันธุ์ไทยที่มีคอลเลกชั่นตามเทศกาล บางเซ็ตมาพร้อมน้องปลาหรือมีฝูงเป็ดเป็นบริวาร แต่ในความจริงแล้วงานทุกชิ้นที่ออกมา ทั้งคู่ตั้งใจถ่ายทอดความงามในรูปแบบความเชื่อและพิธีกรรม แต่ด้วยความที่มีรูปลักษณ์เป็นของน่านำไปบูชา จึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีคนทักมาถามว่าเข้าพิธีปลุกเสกด้วยหรือเปล่า? ถ้าขอเรื่องความรักต้องบูชาองค์ไหน? 

ทั้งคู่เล่าว่าเคยมีลูกค้าที่ซื้อไปเพื่อไปทำพิธีปลุกเสกโดยเฉพาะซึ่งนั่นก็เป็นอิสระทางหนึ่งในการตีความของคนซื้อ แต่เจ้าตัวก็ย้ำอีกครั้งว่างานทุกชิ้นที่ทำขึ้นมาไม่มีสรรพคุณใดๆ แต่ออกแบบมาพร้อมองค์ประกอบที่เต็มไปด้วยความหมายดีๆ ใครใคร่ซื้อไปแต่งบ้านก็ได้ หรือใครใคร่ซื้อไปบูชาก็ไม่ว่ากัน

หิมพานต์มาร์ชเมลโล่และสหาย
จาก MOTMO studio

จากประติมากรรมแห่งศรัทธาจากสัตว์ป่าหิมพานต์ที่ปรากฏตามวัด กลายมาเป็นอาร์ตทอยกองทัพสัตว์หิมพานต์สุดน่ารัก จาก MOTMO studio ถึงแม้สัตว์ป่าหิมพานต์จะไม่ได้ถูกนำมาเคารพบูชาเท่าเทพเจ้า แต่การมีอยู่ของรูปปั้นเหล่านั้นแสดงถึงความศรัทธาในศาสนาของคนในพื้นที่นั้นได้ดีมาก สำหรับวัดที่อยู่ห่างไกลตัวเมืองที่มีเพียงช่างพื้นบ้านที่ปั้นตามคำบอกเล่าไม่เคยเห็นประติมากรรมต้นแบบ ทำให้สัตว์หิมพานต์ในวัดเล็กๆ เหล่านี้ถูกปั้นมาแบบตัดทอน ในลัทธิศิลปะเรียกศิลปะแบบนี้ว่า Naïve art หรือศิลปะที่สร้างขึ้นโดยคนที่ใจรักศิลปะแต่ไม่ได้เรียนศิลปะมา จนกลายเป็นเอกลักษณ์สุดคิวท์เฉพาะตัว เช่น มอม จากวัดเจติยภูมิ จ.ขอนแก่น สิงห์ จากวัดเกาะวาลุการาม จ.ลำปาง หรือ เหรา จากวัดชัยภูมิการาม จ.อุบลราชธานี เป็นต้น 

Motmo Studio ได้นำน้อนมอมมาดีไซน์ใหม่ให้เป็น ‘มอมปรก’ สุดปุ๊กปิ๊ก ซึ่งก่อนที่จะนำมาสร้างสรรค์ในเซ็ตหิมพานต์มาร์ชเมลโล่ ทางศิลปินได้รับอนุญาตจากทางวัดเรียบร้อยและรายได้ส่วนหนึ่งหลังหักค่าใช้จ่ายของทุกตัว จะนำไปมอบให้แก่วัดที่น้อนอาศัยอยู่ด้วย ถึงจะไม่ได้อยู่ในรูปเคารพบูชาจ๋า แต่ก็ทำให้เกิดการเชื่อมต่อให้เจเนอเรชั่นคนรุ่นใหม่ได้รู้จักและเข้าใจความเชื่อในวัฒนธรรมท้องถิ่นมากขึ้น

Hermit Vader (ฤาษีเวเดอร์)
จาก Krissada Art Toy

ถ้าคนมีอำนาจถูกด้านมืดครอบงำมันจะเกิดผลร้ายแค่ไหน แล้วถ้า ‘ดาร์ธ เวเดอร์’ วายร้ายทรงอิทธิพลแห่งจักรวาลกลับใจจะเป็นยังไงกัน?

Hermit Vader (ฤาษีเวเดอร์) จาก Krissada Art Toy ที่ถูกดีไซน์ให้ทิ้งไลท์เซเบอร์ไป แล้วเปลี่ยนมาอยู่ในท่าทีที่สงบแทน กลายเป็นงานอาร์ตทอยที่ผสมผสานระหว่าง American Pop Culture เข้ากับความเชื่อความศรัทธา ซึ่งศิลปินเล่าว่าได้เคยนำฤาษีเวเดอร์เข้าพิธีเบิกเนตรครูฤาษีเมื่อหลายปีก่อน และได้นำมาบูชาแบบจริงจัง ก่อนที่จะทำเพิ่ม เปิดให้คนทั่วไปมาพรีออเดอร์

เหตุผลที่ศิลปินเลือกสื่อสารดาร์ธ เวเดอร์ในรูปแบบของฤาษี เพราะอยากสื่อถึงการบรรลุธรรมในพระพุทธศาสนา จึงมีจุดเริ่มต้นที่ปางสมาธิที่เป็นองค์นั่ง และต่อด้วยปางบรรลุธรรมซึ่งเป็นองค์ยืน นี่อาจจะเป็นอาร์ตทอยสายจริงจังที่ถูกนำมาบูชาได้จริงๆ เพราะความเชื่อของศิลปินและคนซื้ออยู่ในเส้นเดียวกัน การถูกยอมรับในตลาดนี้จึงเกิดขึ้น

ซึ่งในล็อตที่ทำขายศิลปินไม่ได้นำมาผ่านพิธีกรรมแต่อย่างใด เป็นอาร์ตทอยปกติที่ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของคนซื้อ บ้างนำไปตกแต่งบ้าน ร้าน หรือสะสม ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละล็อตถูกผลิตในจำนวนจำกัดและมีเลขกำกับทุกชิ้น บางรุ่นหมดแล้วหมดเลยต้องไปตามหามือสองมือสามในกลุ่มซื้อขายอาร์ตทอย ซึ่งราคาก็จะสูงไปหลายเท่า 

หากสนใจอยากซื้อลองทักไปถามศิลปินก่อนนะว่าตอนนี้กำลังผลิตเซ็ตไหนอยู่ ถ้าชอบจริงๆ รีบจองให้ทัน ที่สำคัญสนับสนุนของจริงกันด้วยนะ

Muscle Arm Lucky Cat แมวกวักนักกล้าม
จาก Ermakova

กวักจนไม่รู้จะกวักยังไงเงินก็ยังไม่ไหลมา ดูเอาแล้วกันว่าเศรษฐกิจยุคนี้มันแย่แค่ไหน ขอให้กล้ามมัดโตอันแข็งแกรงของแมวกวักตัวนี้เป็นคำตอบ! เขาว่ากันว่าแมวกวักที่ยกมือขวาขึ้นบน ถือกันว่าจะช่วยเรียกเงินทองและโชคลาภมาให้อย่างต่อเนื่อง ยิ่งยกสูงมากโชคลาภ เงินทอง หรือลูกค้าจะยิ่งมากไปด้วย แต่ยังไม่มีใครพูดถึงว่าถ้าแขนขวาของแมวใหญ่ขนาดนี้จะเรียกเงินทองได้ขนาดไหน 

ชิ้นนี้ถึงจะไม่ใช่อาร์ตทอย เพราะไม่ได้เป็นผลงานศิลปินที่ผลิตขายในจำนวนจำกัด แต่ขอเอามาเสริมในหมวดของเล่นที่เล่นกับอิทธิพลความเชื่อของคน จนตัวมันเองขายดีเทน้ำเทท่า ไม่รู้ว่าคนที่มีครอบครองจะได้โชคลาภจริงไหม ใครตัวนี้อยู่ทักมาบอกผลลัพธ์กันหน่อย

ของเล่น vs ความเชื่อ

จากตัวอย่างอาร์ตทอยที่ยกมาทั้งหมดนี้ ถือว่าเป็นตลาดที่แคบมากเมื่อเทียบกับอาร์ตทอยในตลาดโลก หากยกตัวอย่างประเทศที่เปิดกว้างและให้อิสระกับทุกเรื่องทุกพื้นที่อย่างญี่ปุ่น เราอาจเคยเห็นกาชาปองรูปพระที่เป็นแมวหลากอิริยาบถ มาสคอตที่มีแบบมาจากพระพุทธรูป และอีกหลากชิ้นที่นำเอารูปเคารพหรือเทพเจ้ามาตีความใหม่ แต่ในบ้านเราเรื่องเหล่านี้อาจค่อยข้างละเอียดอ่อนจึงเกิดการถกเถียงกันในประเด็นความเชื่อและศิลปะอยู่เสมอมา ในความจริงคงขึ้นอยู่กับว่าเรา (คนซื้อ) มองอาร์ตทอยชิ้นนั้นในมุมไหน มองเป็นงานศิลปะสวยงาม มองเป็นของตกแต่งบ้าน มองเป็นของบูชา มองเป็นสิ่งที่สวยงามด้วยฮีลใจด้วย (เราเอง) หรือมุมอื่นๆ 

จริงอยู่ว่าเรื่องความเชื่อเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล แต่จากมุมมองของการบวกรวมศิลปะ-ของเล่น-ความเชื่อ ของเหล่าศิลปินที่เราได้เห็นไปข้างต้น ทำให้เห็นว่ายังมีแนวความคิดอีกมากที่รอให้เปิดใจยอมรับ บางครั้งการยอมให้เส้นมันเบลนด์เข้าด้วยกัน มันก็มีข้อดีในหลายๆ ด้าน ทั้งเศรษฐกิจ หรือการอนุรักษ์  

แล้วคุณล่ะ..คิดว่า ศิลปะ-ของเล่น-ความเชื่อ อยู่กันแบบไหนได้อีก?

Content Creator

#นักเขียน #จบครูศิลปะ กำลังไล่อ่านหนังสือที่ซื้อมาให้หมดทุกเล่ม

Read More:

Play ผลการทดลอง

‘ตามล่า’ หนังสือที่อยากได้จากร้านมือสอง

ทดลองช้อปหนังสือมือสองแบบมีมิชชั่น (ไม่) อิมพอสซิเบิ้ล

Play บันทึกประจำวัน

ใส่มาส์กเดินเล่นบางกอกดีไซน์วีค แล้วมองหาความแคร์แบบคิวท์ๆ

แวะไปเยี่ยมสคัลป์เจอร์คิวท์แบบแคร์โลกของ Teaspoon Studio

Play จากผู้ใช้จริง

เที่ยวตรอกจันทน์ด้วยรถสองแถว แบบ หูย โห เฮ้ย! ตลอดทาง

แชร์โลเที่ยวย่านตรอกจันทน์ด้วยรถสองแถว