Love —— บันทึกประจำวัน

เป็นแม่ค้าออนไลน์เวอร์ชั่นชังชาติก็ได้ แค่อยากช่วยเพื่อนร่วมชาติบ้าง

ไวรัสโควิดยิ่งกว่าประชิดตัว ข่าวรัฐทำอะไรรั่วๆ ให้ปวดหัวไม่เว้นแต่ละวัน เห็นคนถูกกระทำบ่อยกว่าบ่อย เอาจริงๆ ต่อให้สุขภาพจิตดีแค่ไหน เจออะไรแบบนี้วันละหลายๆ หนเข้าไปมันก็มีไม่ไหวกันบ้างแหละ

ตามประสาคนช่างช้อป ชอบใช้เงิน เรามักถูกสมองหลอกให้ช้อปข้าวของมากมายเพราะอยากได้อยากมีในวินาทีนั้น แต่อธิบายเป็นเปเปอร์ยาวเหยียดได้ว่าเหตุผลที่ซื้อมาเป็นเพราะอะไร ไอ้ซื้อมาแล้วได้ใช้ ได้เสพจนสมใจน่ะก็ไม่เท่าไหร่ แต่ก็มีข้าวของจำนวนมากที่ซื้อมาแล้วไม่เคยได้ใช้หรือใช้แล้วไม่ค่อยคุ้ม โดยเฉพาะหมวดแฟชั่นที่มักจะตกที่นั่งนี้เสมอ รื้อตู้บริจาคทีไรก็ตกกะใจว่าทำไมมีของที่ไม่เคยใส่เยอะอย่างนี้ แต่พอจะลงถุงบริจาคก็คิดว่ายังใหม่อยู่เลย เสียดายจัง หรือจะเอาไปโพสต์ขายหน้าวอลล์เหมือนที่เห็นเพื่อนชอบทำ (และเราก็ชอบซื้อ) ดีน้า งั้นเก็บไว้ก่อนแล้วกันเนอะ

ใช่, ไอ้วันที่อยากจะหยิบของพวกนี้มาโพสต์ขายไม่เคยมาถึง ขี้เกียจบ้างล่ะ

จะได้สักกี่ตังค์บ้างล่ะ ใครเขาจะอยากซื้อของแกล่ะ ฯลฯ

จนกระทั่งวันที่โกรธรัฐ ชัง (คนปู้ยี้ปู้ยำ) ชาติ อ่านจดหมายฉบับสุดท้ายของผู้พิพากษาคณากร เพียรชนะ ประกอบกับการเห็นคุณหมอโรงพยาบาลต่างๆ ออกมาแจ้งว่าหน้ากากอนามัยไม่เพียงพอ ก่อให้เกิดคำสบถในหัวมากมาย สบถออกเสียงก็ไม่หายขุ่นข้อง

ระหว่างจะกดโอนเงินสมทบทุนการศึกษา ไม่รู้สมองมันไปผูกโยงพารากราฟบนและพารากราฟนี้ได้ยังไงว่าเอาของที่แกอยากขายโพสต์ชวนคนมาซื้อแล้วรวมกันเอาเงินไปใช้สิ

ฉับพลันทันที ไม่รออาการผัดวันประกันพรุ่งเหมือนที่แล้วมา รีบวิ่งไปค้นตู้แบบด่วนๆ ขุดข้าวของเลเยอร์บนที่รื้อง่ายและไม่เคยได้ใส่มาจำนวนหนึ่ง (ลึกกว่านี้ต้องรื้อนาน เดี๋ยวไม่ได้ทำอีก!) รีบถ่ายรีบโพสต์ก่อนแสงหมด แล้วก็รีบสร้างอัลบั้มในเฟซบุ๊กส่วนตัว ตั้งชื่อว่าช้อปชังชาติ ก่อนจะอธิบายความอัดอั้นตันใจ พี่ๆ จะหาว่าหนูชังชาติก็ได้ถ้าโกรธรัฐบาล แต่หนูแค่อยากชวนคนที่โกรธคล้ายๆ กันมาร่วมด้วยช่วยกันระดมทุน ซึ่งราคาก็ตั้งแบบเบาๆ น่าซื้อหาแบบไม่ลำบากกระเป๋าตังค์นัก กำไรขาดทุนไม่คิด เพราะซื้อมาแล้วไม่ได้ใช้มันก็ขาดทุนแหงๆ อยู่แล้ว ได้ส่งต่อไปให้คนที่จะใช้มันจริงๆ ก็ดีใจว่าไม่เสียเปล่าละ

พอโพสต์สู่โลกจริงๆ ก็ตระหนักได้ว่าข้าวของแกมันช่างเฉพาะทางเกินไปนะ ดูกริบๆ เหมือนจะต้องแอบไปบริจาคเองเหงาๆ ไปคนเดียวแหละ แต่สักพักหนึ่งก็เริ่มมีความคึกคัก มีการคอมเมนต์ถาม ทักอินบ็อกซ์ หรือขอต่อคิว จนรู้สึกถึงความเป็นแม่ค้าออนไลน์ขึ้นมา มีการวัดซ้งวัดไซส์ ใส่ได้ไหมนะ ให้พอคึกคัก ถึงจะปิดดีลได้ไม่มากชิ้นเท่าไหร่ แต่ก็ดีใจที่ผู้อุดหนุน (ซึ่งไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว – เป็นเพื่อนร่วมเฟซบุ๊กอันกว้างใหญ่) เข้าใจจุดหมายของการช้อปนี้ ทุกคนเลือกว่าอยากให้เงินก้อนนี้ส่งต่อไปที่ไหน พร้อมรอแม้ว่าเราจะว่างส่งให้ช้า และแวะมาบอกว่าชอบของมาก ใส่ได้พอดีเลย 

เล็กๆ น้อยๆ อีกหน่อยที่ทำแล้วสบายใจ คือการไปขุดกระดาษเก่าๆ ถุงกระดาษที่เคยเก็บไว้ มารียูสเพื่อแพ็กของส่งต่อ หน้าตาอาจไม่มืออาชีพ แต่ความตั้งใจเต็มร้อยนะจะบอกให้! (ส่วนหนังสือนั้น แถมไปให้เป็นของขวัญจากผู้เขียน (ไม่มีใครจับได้ใช่ไหม ว่าเป็นพื้นที่โฆษณา : P)

ในฝั่งเงินบริจาคตามความตั้งใจของคนอุดหนุน เราส่งต่อให้บัญชีของท่านผู้พิพากษาเพื่อทุนการศึกษาของลูก และส่งให้กับโครงการ ใจต่อใจ เป็นโครงการระดมทุนเพื่อเย็บหน้ากากอนามัยแบบมาตรฐานส่งให้โรงพยาบาล และตั้งใจว่าจะค่อยๆ ทยอยรื้อตู้ต่อไปเป็นระยะ ให้แวะมาเลือกและส่งต่อกันไปเรื่อยๆ

แม้จะเป็นการลงมือทำที่เชื่องช้า อ้อมโลก และสร้างผลกระทบเชิงบวกได้น้อยนิดเหลือเกินก็เถอะ

เพราะฉะนั้น ขอแปะลิงค์อัลบั้มไว้ด้านล่างนี้ด้วยละกัน แวะไปช้อป แล้วเปลี่ยนความชังรัฐบาลเป็นพลังกันเถอะ!

บันทึกประจำวันที่ 15 มีนาคม 2563
/เต้ 

Content Designer

อดีตผู้ช่วยบรรณาธิการนิตยสาร #aday คือเจ้าของหนังสือทั้งเรื่องจริงและเรื่องแต่ง อาทิ #สนธิสัญญาฟลามิงโก #ร้านหวานหวานวันวาน คือบรรณาธิการอิสระและคอนเทนต์ครีเอเตอร์ฟรีแลนซ์ ก่อนจะมาเป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทออกแบบคอนเทนต์ที่ยังไม่รู้จะตั้งชื่อตำแหน่งตัวเองว่าอะไร

Read More:

Love สาระสำคัญ

แด่ผู้สูญหายที่ไม่อาจกลับมา

อะไรบ้างที่หายไป พร้อมการถูกบังคับสูญหาย

Love สาระสำคัญ

เราจะอยู่กันยังไง ในยุคที่กลัวคนไอ ไม่ไว้ใจคนไม่ใส่หน้ากาก

โลกตอนนี้มันอยู่ยาก แต่อยู่รอดคนเดียวไม่แบ่งใครยากกว่า

Love สาระสำคัญ

ไหว้เจ้า 9 ศาล กับ 9 คำอธิษฐานเพื่อเมืองที่ดีกว่านี้

รวมคำอธิษฐานจากเมือง ที่อยากให้เมืองนี้ดีและน่าอยู่มากขึ้น